26 ก.พ. 2560

กระตุ้นพลังด้วยชาตามธาตุ

หลายท่านอาจเคยรู้จักกับการกินตามธาตุมาบ้างแล้ว แต่รู้ไหมว่าแม้แต่ชาที่หลายท่านชอบดื่ม ก็สามารถเลือกให้เหมาะกับธาตุได้เช่นกัน ไม่เพียงแค่เติมความสดชื่นระหว่างวัน แต่ยังช่วยปรับสมดุลภายในร่างกายได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว

ตามหลักการแพทย์แผนไทยจำแนกธาตุตามเดือนเกิด ดังนี้
ธาตุลม   คือท่านที่เกิดเดือน                พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม
ธาตุน้ำ    คือท่านที่เกิดเดือน                สิงหาคม กันยายน ตุลาคม
ธาตุดิน   คือท่านที่เกิดเดือน                พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม
ธาตุไฟ    คือท่านที่เกิดเดือน                กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน

บุคลิกภาพตามธาตุ
ธาตุดิน
บุคลิกค่อนข้างนิ่งๆ เงียบๆ ทำอะไรค่อนข้างเฉื่อย
ปัญหาสุขภาพ: มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายยาก ปวดเมื่อย ปวดข้อ
ธาตุน้ำ 
บุคลิกค่อนข้างรักความสบาย อ่อนไหว โรแมนติก
ปัญหาสุขภาพ: มักเป็นคนขี้หนาว เป็นหวัดง่าย ความดันโลหิตสูง
ธาตุลม 
บุคลิกค่อนข้างทำอะไรเร็ว เปลี่ยนแปลงเร็ว
ปัญหาสุขภาพ: มักท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมมาก
ธาตุไฟ 
บุคลิกเป็นคนทำอะไรเร็วคล้ายธาตุลม แต่ปนความร้อนแรงมากกว่า ไม่ค่อยยอมใคร ตัดสินใจเร็ว
ปัญหาสุขภาพ: มักร้อนในง่าย ความดันโลหิตต่ำ

เมื่อนำบุคลิกลักษณะและปัญหาสุขภาพของแต่ละธาตุเจ้าเรือนมาเปรียบเทียบกับคุณสมบัติของสมุนไพรแล้ว จะได้ชาสมุนไพรที่เหมาะกับคนในแต่ละธาตุ ดังนี้
ธาตุดิน เหมาะกับ        ชาคาโมมายล์ ชาแอ๊ปเปิ้ล ชาดอกคำฝอย ชาซินนามอน หรือน้ำมะพร้าว
ธาตุน้ำ เหมาะกับ        ชากุหลาบ หรืออาจดื่มเป็นน้ำส้ม น้ำมะนาว
ธาตุลม เหมาะกับ        ชาเปปเปอร์มินต์ หรือน้ำตะไคร้ น้ำขิง
ธาตุไฟ เหมาะกับ        ชาคาโมมายล์ ชาแอ๊ปเปิ้ล หรือน้ำเก๊กฮวย น้ำเตยหอม

การดื่มชาให้ตรงธาตุนับเป็นการเพิ่มพลัง เพิ่มความสดชื่น หากดื่มเป็นประจำจะถือเป็นการบำบัดธาตุในร่างกายให้มีความสมดุลได้เลยทีเดียว

1 ก.พ. 2560

ความรัก กับ สุขภาพหัวใจ


ความรัก 2 แบบความรักเกิดที่หัวใจใครๆก็รู้ แต่ รัก” อย่างไรจึงจะดีกับ “ หัวใจ คุณรู้รึเปล่า

ไม่ว่าจะรักใคร รักอะไร ความรักก็แบ่งได้เป็น 2 แบบเสมอ คือความรักที่ ลดความเห็นแก่ตัว อย่างเช่น ความรักของพ่อแม่ที่ยอมอดเพื่อให้ลูกได้อิ่ม ความเอื้ออาทร การดูแลเอาใจใส่ทั้งกายและใจที่ภรรยามีให้กับสามีไม่หนีห่าง แม้วินาทีสุดท้ายของชีวิต เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นความรักที่อยู่บนพื้นฐานของความเมตตา กรุณา ความเอื้ออาทร  อันเป็นเหตุให้เกิคความอิ่มเอมและปีติทางใจ
ส่วนความรักอีกแบบหนึ่งเป็นความรักที่ เพิ่มคือการเพิ่มความเห็นแก่ตัว ความรักประเภทนี้ยิ่งรักมากยิ่งเพิ่มความเห็นแก่ตัว เพิ่มการยึดติด หากไม่ได้สิ่งที่หวัง ก็อาจเปลี่ยนจากความรักเป็นชิงชัง เศร้าโศกเสียใจ เรื้อรังถึงขั้นซึมเศร้า

สุขภาพหัวใจทั้ง 4 ด้าน

ก่อนที่จะกล่าวถึงความรักทำให้หัวใจแข็งแรงได้อย่างไร ต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่าสุขภาพหัวใจไม่ได้มีความหมายแค่ไม่เป็นโรคหัวใจหรือมีความสุขทางกายอย่างเดียว แต่รวมถึงสุขภาพทางจิต ทางสังคม สิ่งแวดล้อม และจิตวิญญาณด้วย ซึ่งความรักแบบ ลดการเห็นแก่ตัว นอกจากจะลดโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังทำให้หัวใจเกิดความสุขอีก 3 ด้านโดยตรงอีกด้วย ในทางตรงข้าม ความรักแบบ เพิ่มการเห็นแก่ตัว เพิ่มการยึดติด ยึดมั่น นอกจากจะเพิ่มโอกาสการเกิดโรคหัวใจแล้ว ยังเพิ่มความเครียดทางอารมณ์ ไม่ก่อให้เกิดความร่มเย็นในครอบครัว สังคม และนำไปสู่การขาดความสงบสุขทางจิตใจ
sanook.com

ทำไมความรักทำให้หัวใจแข็งแรง

สาเหตที่ทำให้ความรักแบบลดการเห็นแก่ตัว ช่วยลดโอกาสที่เราจะป่วย หรือเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ ก็เนื่องจากว่า ความรักแบบนี้ทำให้ร่างกายอยู่ในระบบพัก หรือผ่อนคลาย จึงช่วยลดความเครียดทางอารมณ์ ลดภาวะซึมเศร้า  ซึ่งส่งผลให้ระดับไขมัน ความดันเลือด และการเต้นของหัวใจลดลง ต่างจากการที่ร่างการอยู่ในระบบเพิ่ม ที่จะส่งผลให้น้ำตาลความดันในเลือดสูง เพราะเมื่อน้ำตาล ไขมัน ความดันในเลือดภายในร่างกายของเราไม่สูง ก็ลดโอกาสที่ไขมันจะไปพอกพูนสะสมในหลอดเลือดหัวใจ ลดโอกาสที่ความดันสูงในเลือดจะไปกระแทกหลอดเลือดหัวใจ ให้ปริแตกเป็นแผล ลดโอกาสเกิดมีลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงภาวะเข็บแน่นหน้าอกจากหลอดเลือดหัวใจตีบ หัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตายก็จะไม่เกิดขึ้น
นอกจากความรักจะมีผลต่อสุขภาพหัวใจแล้ว ยังสามารถเยียวยาสุขภาพที่เจ็บป่วยให้แข็งแรง หรือที่แข็งแรงอยู่แล้วให้ดียิ่งๆขึ้นไป

ความรักส่งผลดีกับสุขภาพ

1.ช่วยลดความเครียด

          ความรักช่วยลดความเครียด เพราะเมื่อมนุษย์เรามีความผูกพันอย่างใกล้ชิดกับใครสักคน ต่อมใต้สมองจะหลั่งฮอร์โมนดีไฮโดรอีพิแอนโดรสเตอร์โลน (Dehydroepiandrosterone) หรือ DHEA ออกมา และฮอร์โมนนี้เองที่จะช่วยปราบความเครียดให้อยู่หมัด นอกจากนี้หากคนรักคอยดูแลเอาใจใส่ เอาอกเอาใจอีกฝ่ายเป็นอย่างดีจะช่วยให้คุณรับมือกับสิ่งที่มากระตุ้นให้เกิดความเครียดได้ดีกว่าเดิม

2. ต้านมะเร็ง

          ข่าวดีสำหรับคนมีความรัก เพราะงานวิจัยหลายแห่งบอกบอกว่า คนที่มีความรักจะมีอัตราเสี่ยงต่อโรคมะเร็งน้อยกว่าคนโสด นอกจากนี้ คนมีคู่ยังมีแนวโน้มจะต่อสู้กับโรคร้ายได้ดีกว่าคนโสดเสียด้วย สนับสนุนเรื่องนี้ด้วยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งรังไข่ที่ได้รับกำลังใจที่ดีจากคนรักนั้น ร่างกายจะสามารถผลิตเม็ดเลือดขาวออกมาสู้กับมะเร็งได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อและยังมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นด้วย

3. อายุยืนยาวขึ้น

          คู่แต่งงานจะมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าคนโสด นั่นเพราะเขาจะไม่รู้สึกถึงความโดดเดี่ยว อ้างว้าง ที่ทำให้จิตใจหดหู่ อันเป็นสาเหตุของโรคหลายโรคที่จะตามมา นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า คู่แต่งงานมีสถิติการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลน้อยกว่าคนที่อยู่คนเดียวด้วย ซึ่งนักวิจัยก็สันนิษฐานว่า อาจเป็นเพราะคู่แต่งงานที่มีความสัมพันธ์ที่ดีจะคอยพูดปรับทุกข์ และช่วยเหลือกันและกันตลอดเวลา ทำให้พวกเขาลดการใช้ยา หรือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อดับทุกข์ด้วย

4. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

          ในเมื่อ "ความรัก" เป็นเรื่องของ "หัวใจ" เพราะฉะนั้นจะแปลกอะไรล่ะ ถ้าความรักจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ด้วย นั่นเพราะความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันและกันนั้น ไม่ว่าจะกับเพื่อน ญาติ หรือคนรัก จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ ซึ่งคอเลสเตอรอลนี่แหละที่เป็นสาเหตุตัวดีที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจตามมา

 5. เยียวยาบาดแผลให้หายไว

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะนักวิจัยพบว่า ผู้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรักจะสามารถรักษาบาดแผลให้หายได้เร็วขึ้น โดยจากการเปรียบเทียบระหว่างคู่รักที่มีความสุขกับคนที่อมทุกข์นั้น พบว่า คู่รักที่มีความสุขจะใช้ระยะเวลารักษาแผลพุพองให้หายเร็วกว่าอีกฝ่ายถึงเกือบ ๆ 2 เท่า นอกจากนี้ คนที่มีความรักนั้นจะมีแนวโน้มถูกไวรัสไข้หวัดเล่นงานได้น้อยกว่าคนโสดอีกด้วย

 6. ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวตลอดเวลา

          ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หากคนสองคนยังคงมีความรักให้แก่กัน และดูแลกันอย่างดี ฮอร์โมนอีพิแอนโดรสเตอร์โลน (Dehydroepiandrosterone) หรือ DHEA  ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยต้านความชรา จะทำงานเป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้คุณดูอ่อนเยาว์กว่าวัย นอกจากนี้สารเคมีที่หลั่งออกมาจะช่วยให้เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย ทำให้ผิวพรรณของคุณดูนุ่มนวล เรียบเนียน และไร้ริ้วรอย

 7. เสียงหัวเราะช่วยให้ได้ออกกำลังกาย

          ไม่น่าแปลกใจเลยที่คู่รักจะมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กันเสมอ ๆ แล้วผลที่ได้จากการหัวเราะก็คือสุขภาพที่แข็งแรงนั่นเอง รู้ไหมว่า "การหัวเราะ" ถือเป็นยาดีชั้นหนึ่งที่ช่วยขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บได้มากเลยนะ นอกจากจะช่วยให้สุขภาพจิตดีแล้ว ยังมีผลต่อสุขภาพกาย คือ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า กล้ามเนื้อปอด กล้ามเนื้อหัวใจ เท่ากับว่าได้ออกกำลังกายอีกแรง