30 พ.ค. 2560

เรื่องกล้วยๆ


ด้วยประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อนจึงมีกล้วยนานาพันธุ์ เมื่อกางตำราดูจะพบว่า "กล้วย" มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโพแทสเซียมที่ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิต เพกทิน ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย กรดแอมิโนอย่าง อาร์จินีน และ ฮีสติดีน ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก นอกจากนี้ยังมี วิตมินบี ที่ช่วยคลายเครียด

นานาประโยชน์ของสารพัดกล้วย 

กล้วยน้ำว้า เป็นอาหารของคนทุกวัย กล้วยน้ำว้าบดสามารถใช้เป็นอาหารของเด็กทารก เพราะในกล้วยน้ำว้ามีกรดแอมิโนจำเป็นอย่างอาร์จินีนและฮีสติดีน ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อในเด็กเล็ก และเป็นอาหารที่ช่วยเสริมสารอาหารนานาชนิดให้ผู้สูงอายุ ยามที่มีปัญหาการบดเคี้ยว

กล้วยหอม มีโพแทสเซียมซึ่งช่วยลดการเกิดตะคริว ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงของโรค หลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารทริปโตแฟนที่ช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารซีโรโทนินออกมาช่วยลดภาวะตึงเครียดและทำให้รู่สึกผ่อนคลาย จึงไม่แปลกเลยที่จะได้เห็นนักกีฬากินกล้วยระหว่างพักครึ่ง



กล้วยไข่ ของโปรดที่ต้องกินคู่กับกระยาสาท เป็นกล้วยที่มีสารเบต้าแคโรทีนมากกว่ากล้วยชนิดอื่น จึงช่วยบำรุงสายตา ชะลอริ้วรอยและความเสื่อมของเซลล์ แต่ใครที่ชอบกินกล้วยไข่ต้องระมัดระวังเรื่องน้ำหนัก เพราะกล้วยไข่มีปริมาณน้ำตาลและคาร์บไฮเดรตมาก

ส่วนกล้วย 2 ชนิดที่นิยมนำมาทำอาหารแปรรูปอย่าง กล้วยหักมุก และ กล้วยเล็บมือนาง ก็อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยในเรื่องของกระดูกแลฟัน และมีวิตมินนานาชนิด

เลือกซื้อกล้วยไม่ยากเย็น

วิธีซื้อกล้วยง่ายๆคือ ดูลูกที่มีสีเหลืองสวย ไม่ดำ แต่หากซื้อกล้วยดิบมา ให้เก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง แต่หากอยากเก็บกล้วยดิบไว้นานๆให้เก็บในตู้เย็น แม้ความเย็นจะทำให้เปลือกดำ แต่เนื้อในยังคงความอร่อยอยู่

กินกล้วยให้อร่อย

กินกล้วยสุก วิธีกินกล้วยที่ง่ายและได้ประโยชน์คือ การกินกล้วยสุก เนื่องจากกล้วยแต่ละชนิดให้พลังงานแตกต่างกัน ปริมาณกล้วยที่แนะนำในแต่ละมื้อจึงแตกต่างกันไปตามชนิดของกล้วย ตัวอย่างเช่น กล้วยน้ำว้า กินได้ครั้งละ 1-2 ผล กล้วยหอมครั้งละ 1 ผล กล้วยไข่ครั้งละ 3 ผล

กล้วยต้ม ต้มกล้วยน้ำว้าทั้งเปลือกจนนิ่ม จากนั้นปอกเปลือกออก ผ่าครึ่ง เพียงเท่านี้ก็ได้กินกล้วยที่มีกลิ่นหอม รสชาติละมุนละไม นุ่มลิ้น

กล้วยดิบเพื่อมื้อสุขภาพ กล้วยดิบสามารถนำมาใส่ในเมนูอาหารคาวได้หลากหลายชนิด อย่างเช่น ใส่กล้วยดิบหั่นในแกงต่างๆ หรือจะลองนำไปผัดกะเพรา ผัดพริกแกง หรือตำกล้วย ก็ช่วยให้ได้รสชาติที่หลากหลายไม่จำเจ



7 พ.ค. 2560

"ดอกทานตะวัน" ดีต่อใจ ดีต่อร่างกาย


    ดอกทานตะวันสีเหลืองบานคู่แสงพระอาทิตย์ ดอกไม้ที่หลายๆคนชื่นชอบและนึกถึงเมื่อร่างกายร้องเรียกหาธรรมชาติในดูแลสุขภาพของจิตใจ ด้วยสีสันสดใสของกลีบดอกที่เรียงรายสามารถบำบัดอารมณ์เมื่อเกิดความอ่อนล้าจากการใช้ชีวิต หรือความเครียดจากการทำงาน เมื่อได้อยู่ท่ามกลางดอกไม้ สูดอากาศที่บริสุทธิ์ถือได้ว่าเป็นการชาร์ตแบตให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง ร่างกายก็จะผลิตสารแห่งความสุข (Endorphin) ออกมาทำให้รู้สึกผ่อนคลายสดชื่น สมองปลอดโปร่ง และช่วยให้ความจำดี เมื่อจิตใจอยู่ในภาวะผ่อนคลาย โรคภัยต่างๆ เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิต ภูมิแพ้ ฯลฯ ก็จะไม่เกิด

              นอกจากนี้ทานตะวันยังถูกนำมาแปรรูปเพื่อนำไปใช้ประโยชน์อื่นได้อีกมาก อย่างเมล็ดทานตะวันที่สามารถใช้กินเล่นได้แบบเพลินๆ แถมมีคุณค่าต่อร่างกาย หรือน้ำมันดอกทานตะวันซึ่งถือเป็นน้ำมันที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกันเพราะช่วยป้องกันโรคได้ดี หรือในส่วนของต้นอ่อนทานตะวันก็เป็นอาหารสุขภาพที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงได้อย่างดียิ่ง

14 สรรพคุณของทานตะวัน ประโยชน์ในการรักษาโรค

1. เป็นแหล่งของน้ำมันคุณภาพดี เมื่อนำมาใช้ปรุงอาหารกินแล้วไม่มีโทษต่อร่างกาย เพราะน้ำมันที่สกัดมาจากดอกทานตะวันเป็นน้ำมันไม่อิ่มตัวสูงซึ่งจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจได้เป็นอย่างดี
2. น้ำมันจากดอกทานตะวันหรือเมล็ดทานตะวันยังอุดมด้วยวิตามินที่จำเป็นอยู่ครบ จึงนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร เช่น เนยเทียม นมไม่มีไขมัน ฯลฯ และในเครื่องสำอาง เช่น สบู่ ครีมบำรุงผิว ยาสระผมและครีมนวดผม ฯลฯ
3. ดอกทานตะวันเมื่อนำมาทำเป็นน้ำดื่มก็ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย ช่วยต้านโรคได้หลายชนิด บำรุงสุขภาพ หายจากอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยได้เร็ว อย่างแก้อาการไข้หวัด บรรเทาอาการไอและวิงเวียนศีรษะจะเป็นลม
4. เมล็ดนำมากินเป็นอาหารว่าง อุดมด้วยคุณประโยชน์ทางสารอาหารสูง มีโปรตีนที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ จึงเหมาะกับผู้กินมังสวิรัติที่ไม่สามารถกินเนื้อสัตว์ได้ แถมยังมีไขมันสูงกว่าแป้ง มีธาตุเหล็กสูงกว่าไข่แดงหรือตับสัตว์อีกด้วย
5. เมล็ดดอกทานตะวันเป็นแหล่งรวมของวิตามินที่สำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินอีที่มีมากกว่าในถั่วเหลืองและข้าวโพดถึง 3 เท่า ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยรักษาผิวพรรณให้ยังคงความชุ่มชื้น ดูอ่อนเยาว์ เพราะจะต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นศัตรูสำคัญของผิวพรรณ

6. เมล็ดของดอกทานตะวันมีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดีขึ้น ทำให้หัวใจแข็งแรง ป้องกันโรคหัวใจวายและการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ลดความดันโลหิตสูง
7. ดอกทานตะวันมีสรรพคุณช่วยชะลอการเกิดโรคต้อกระจก ทำให้สายตาเป็นปกติ มองเห็นได้ชัดเจนไม่เสื่อมเร็ว
8. ต้นอ่อนทานตะวันที่เพาะมาจากเมล็ดนั้นสามารถนำมาใช้ทำเป็นอาหารรวมถึงน้ำดื่มเพื่อสุขภาพได้ ซึ่งนอกจากจะมีรสชาติกรอบอร่อยและย่อยง่ายแล้ว ยังมีทั้งวิตามินและเกลือแร่หลากหลาย ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยบำรุงสมอง และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้เป็นอย่างดี
9. ดอกทานตะวันมีสรรพคุณเป็นยาระบาย ที่ช่วยแก้อาการท้องผูก ทำให้ระบบการขับถ่ายเป็นปกติ และยังช่วยขับปัสสาวะ
10. ดอกทานตะวันช่วยให้ระบบสืบพันธุ์เป็นปกติ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้องก่อนที่ประจำเดือนจะมา หรือในระหว่างที่มีประจำเดือนก็ทำให้หายจากอาการปวดท้องได้ แก้อาการตกขาวด้วย

11. ดอกทานตะวันมีสรรพคุณช่วยขับลม แก้อาการปวดท้องแน่นหน้าอก รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการปวดท้องจากโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และแก้โรคบิดได้
12. รากของดอกทานตะวันมีประโยชน์ในทางการแพทย์ ซึ่งจะใช้เป็นอาหารให้แก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานได้ เพราะมีวิตามินบี 1 รวมทั้งแร่ธาตุที่มีสรรพคุณช่วยแก้อาการของโรคนี้ได้ดี
13. ดอกทานตะวันมีฤทธิ์ที่ช่วยถอนพิษไข้ ใช้เป็นยาขับพิษร้อน ทำให้อวัยวะภายในร่างกายมีความชุ่มชื้น
14. ดอกทานตะวันสีเหลืองสวยเด่นมีประโยชน์ใช้ทำเป็นสีย้อมผ้าเพื่อให้เป็นสีเหลือง และนิยมใช้ตกแต่งในงานพิธีต่างๆ หรือใช้เยี่ยมคนป่วยเพราะจะให้ความรู้สึกสดใส

           จากสรรพคุณและประโยชน์ของดอกทานตะวันที่กล่าวมาทั้งหมดเห็นได้ว่า ดอกทานตะวันเป็นพรรณไม้ที่น่าสนใจสำหรับการนำมาใช้เพื่อดูแลรักษาสุขภาพอย่างมาก เป็นประโยชน์ต่อคนเราให้ห่างไกลจากโรค ร่างกายแข็งแรง ส่วนของดอกสีเหลืองสวยก็ให้ความสดใสเมื่อได้เห็น จึงนับเป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่เราไม่ควรพลาดจริงๆ

ที่มา: www.sukkaphap-d.com